ปัญหาการออกอากาศภาคพื้นดินระบบดิจิทัลกับ กสทช. ของ มูฟวี่ฮิตทีวีพูล

หลังจากที่พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี จำกัด ประกาศว่าจะงดชำระค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล งวดที่สองให้แก่ กสทช. เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 พันธุ์ทิพาส่งหนังสือถึง กสทช.ขอบอกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการฯ ในช่องหมายเลข 17 (ไทยทีวี) และช่องหมายเลข 15 (โลกา) โดยหลังจากนั้นไม่นาน ก็ประกาศสำทับอีกว่า จะยุติการออกอากาศไทยทีวีและโลกา ผ่านระบบดิจิทัลภาคพื้นดิน ทางช่องหมายเลข 17 และ 15 ตามลำดับ ในวันที่ 26 กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 00:00 น. เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 - เนื่องด้วย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จึงมีคำสั่งให้สถานีโทรทัศน์ทุกช่องระงับการออกอากาศรายการตามผังรายการปกติเป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อเป็นการไว้อาลัย ไม่สามารถรับชม ลืม ทั้ง 2 ช่อง ไม่ได้ใบอนุญาต [1]

ทว่าทาง กสทช.ระบุว่าหาก บจก.ไทยทีวี ไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต จะต้องรับโทษทางปกครอง คือพักใช้หรือเพิกถอน ใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ซึ่งจะเป็นผลให้ขาดคุณสมบัติ ในการเป็นผู้รับใบอนุญาต ประกอบกิจการโทรทัศน์ ประเภทไม่ใช้คลื่นความถี่ไปด้วย[2][3] พันธุ์ทิพาจึงมอบหมายทนายความ ยื่นฟ้อง กสทช.ต่อศาลปกครอง ซึ่งดำเนินการไต่สวน ด้วยการเชิญให้คู่กรณีมาชี้แจง โดยทาง กสทช.เสนอให้ บจก.ไทยทีวี ประกาศหาผู้รับซื้อกิจการ หรือผู้เข้าร่วมประกอบกิจการ ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งระหว่างนี้มีการผ่อนปรน ให้ยืดเวลาออกอากาศ ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลไปอีกสามเดือน (จนถึงวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558) ซึ่งพันธุ์ทิพาก็เห็นชอบด้วย[4] เกิดขึ้นวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เคยออกอากาศทีวีดิจิทัล วันที่1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 (5 ปี)

แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาดังกล่าว บจก.ไทยทีวี ไม่สามารถดำเนินการตามข้อเสนอของ กสทช.ข้างต้นได้ จึงยุติการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ทางช่อง 17 ไทยทีวี พร้อมกับช่อง 15 เอ็มวีทีวีแฟมิลี ซึ่งดำเนินการด้วยตนเอง ตั้งแต่เวลา 23:59 น. ของวันที่ 31 ตุลาคมนั้นเอง โดยที่ กสทช.และองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.; ไทยพีบีเอส) เจ้าของอุปกรณ์รวมส่งสัญญาณ มิได้เป็นฝ่ายดำเนินการตัดสัญญาณแต่อย่างใด[5] โดยในวันรุ่งขึ้น (1 พฤศจิกายน) บจก.ไทยทีวี เปลี่ยนชื่อช่องอีกครั้งเป็น "ทีวีพูล 7" (อังกฤษ: TV Pool 7) พร้อมทั้งปรับปรุงตราสัญลักษณ์ในรายละเอียด ซึ่งใช้พื้นฐานจากสัญลักษณ์เดิมที่มีตัวเลข 7 อยู่เป็นสำคัญ มาประกอบกับสัญลักษณ์หัวนิตยสารทีวีพูล และส่วนล่างสุดยังมีสัญลักษณ์ "มูฟวี่ฮิตส์" (อังกฤษ: Movie Hits) ขนาดเล็ก ซึ่งประกอบด้วยภาพม้วนฟิล์ม และเครื่องหมายเพลย์ (Play) เนื่องจากซื้อใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ของช่องมูฟวี่ฮิตส์มาใช้ไปพลางก่อน[ต้องการอ้างอิง]

ต่อมาสำนักงาน กสทช.ส่งหนังสือเลขที่ สทช 4010/35320 ออกคำสั่งทางปกครอง แจ้งต่อผู้อำนวยการ ส.ส.ท. เพื่อระงับการให้บริการโครงข่ายแก่ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ทั้งสองช่อง เป็นระยะเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป[6] ดังนั้น ส.ส.ท.จึงดำเนินการตามคำสั่งทางปกครองดังกล่าว โดยแสดงหน้าจอสีดำ มีข้อความเป็นตัวอักษรสีขาว อยู่บริเวณกลางหน้าจอความว่า "ระงับการออกอากาศชั่วคราว(เว้นบรรทัด)ตามคำสั่งทางปกครองของสำนักงาน กสทช."[7]โดยในวันรุ่งขึ้น (2 ธันวาคม) ได้เปลี่ยนเลขช่องเป็น "ทีวีพูล 44" (อังกฤษ: TV Pool 44) พร้อมทั้งปรับปรุงตราสัญลักษณ์ในรายละเอียด ซึ่งใช้พื้นฐานจากสัญลักษณ์เดิมที่มีตัวเลข 44 อยู่เป็นสำคัญ มาประกอบกับสัญลักษณ์หัวนิตยสารทีวีพูล และยุติการออกอากาศ 30 กันยายน พ.ศ. 2559 เฉพาะระบบดาวเทียม[8]